Osaka
ประวัติของเมืองโอซาก้าเมืองท่า Naniwazu เป็นเมืองท่าที่มีมาก่อนเมืองท่าในยุคสมัยใหม่นั่นก็คือเมืองท่า Osaka เมืองท่าโอซาก้าได้กลายมาเป็นทางเข้าสู่ญี่ปุ่นยุคโบราณ สำหรับผู้มาเยี่ยมเยือนจากเกาหลี จีน และจากทวีปเอเชีย ผู้มาเยี่ยมเยือนเหล่านี้ได้นำมาซึ่งความรู้ วัตถุต่างๆที่แสดงถึงวัฒณธรรมที่ล้ำหน้า และเทคโนโลยีต่างๆเกี่ยวกับ เซรามิค การตีเหล็ก การก่อสร้าง และวิศวกรรม นอกจากนี้ยังนำมาซึ่งศาสนาใหม่ของพวกเขาอันได้แก่ ศาสนาพุทธ ซึ่งได้เริ่มแพร่หลายออกไปอย่างรวดเร็วในประเทศต่างๆในขณะที่ศาสนาพุทธแพร่หลายออกไป เจ้าชาย Shotoku ได้ทำการสร้างวัด Shitennoji ขึ้นในโอซาก้า เมื่อปี ค.ศ.593 และเมืองนี้ได้กลายมาเป็นที่ตั้งสำคัญที่มีการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย ในปี ค.ศ. 645 จักรพรรดิ Kotoku ได้ย้ายเมืองหลวงจาก Asuka (Nara) มาที่ Osaka เขาได้สร้างพระราชวัง Naniwanomiya ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่ารัฐบาลแห่งชาติต่อมาได้ย้ายไปที่ Nagaoka-kyo ( Kyoto) และย้ายไป Heija-kyo (The city of Nara) และต่อมาได้ย้ายไปที่ Heian-kyo (Kyoto) และย้ายไปที่ Kamakura โดยสุดท้ายได้ย้ายไปที่ Edo (Tokyo) เมืองโอซาก้ายังคงเป็นเมืองที่มีความสำคัญรองลงมาจากเมืองหลวง และมีบทบาทสำคัญที่เป็นเสมือนประตูทางเข้าแห่ง
วัฒนธรรมและการค้าของชาวต่างประเทศ
เมืองปราสาทของ Hideyoshiในปี ค.ศ. 794 เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นได้ย้ายไปที่ Heian-kyo (Kyoto) ยุคที่ตามมาหลังจากนี้ถูกเรียกว่าเป็นยุค Heian ในยุคนี้จะเห็นว่ามีสิ่งก่อสร้างที่เป็นวัดสวยงามเป็นจำนวนมากรอบบริเวณเมือง Kyoto และ Osaka ในขณะที่ศิลปะ งานช่าง และวรรณกรรมของสตรี (เช่น นิทานแห่ง Gemji) นั้นก็เฟื่องฟูมาก แต่ในปลายยุค 1100 ประเทศได้เข้าสู่ยุค Kamakura เนื่องจากเจ้าเมืองที่มีอำนาจได้มีครอบครองอำนาจเหนือดินแดนทั้งหมด และเมืองหลวงก็ได้ย้ายไปที่ Kamakura ดังนั้นจึงเป็นระยะเวลามากกว่าสองศตวรรษที่เป็นช่วงระยะเวลาแห่งสงครามกลางเมืองในศตวรรษที่ 14 เมืองโอซาก้าถูกทำลายอย่างมากจากสงคราม ต่อมาในปี ค.ศ.1496 Rennyo นักบวชที่มีตำแหน่งสูงสุดในขณะนั้นได้เริ่มทำการก่อสร้าง Ishiyama Gobo วัดนี้ต่อมาถูกเรียกว่า วัด Ishiyama Honganji และวัดนี้ยังเป็นเหมือนป้อมปราการที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันการบุกรุกจากข้าศึกในระหว่างช่วงปลายยุค Muromachi(1336-1573) Nobunaga Oda เจ้าเมืองผู้ทรงอิทธิพลได้ติดต่อกับ Uemachi Daichiเ พราะมันยากมากที่จะทำการสู้รบและควบคุมดินแดนที่ล้อมรอบอยู่ มีความเชื่อกันว่าการควบคุมดินแดนนี้ ซึ่งถูกสร้างโดยน้ำจากแม่น้ำ Yamatogawa และ Yodogawaและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน จะถือว่าเป็นการควบคุมส่วนอื่นๆของประเทศญี่ปุ่นและในโลกด้วย ความขัดแย้งอันยาวนานที่ตามมาอีกหนึ่งทศวรรษ และวัดจำนวนมากถูกทำลายไป หลังจากวัดได้ถูกย้ายไปอยู่ภายใต้การควบคุมของ Nobunaga Oda.ผู้สืบทอดของเขาซึ่งได้แก่ Hideyoshi Toyotomi เป็นเจ้าเมืองอีกคนหนึ่งที่มีชื่อเสียง ได้รวบรวมประเทศญี่ปุ่นจากฐานที่ตั้งของเขาในโอซากา และสร้างปราสาทโอซากาในปี 1583 ซึ่งอยู่ในระหว่างยุค Azuchi Momoyama(1574-1600) แม่น้ำถูกขุดเพื่อขยายความสามารถของโอซาก้าออกไปในการเป็นฐานที่ตั้งสำหรับการขนส่งทางทะเล อย่างไรก็ตาม ในการสู้รบที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงฤดูหนาวของปี 1614 และในฤดูร้อนของปี 1615 ทำให้เมืองประสาทของโอซากาถูกเผาจนหมดสิ้น
เมืองปราสาทของ Hideyoshiในปี ค.ศ. 794 เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นได้ย้ายไปที่ Heian-kyo (Kyoto) ยุคที่ตามมาหลังจากนี้ถูกเรียกว่าเป็นยุค Heian ในยุคนี้จะเห็นว่ามีสิ่งก่อสร้างที่เป็นวัดสวยงามเป็นจำนวนมากรอบบริเวณเมือง Kyoto และ Osaka ในขณะที่ศิลปะ งานช่าง และวรรณกรรมของสตรี (เช่น นิทานแห่ง Gemji) นั้นก็เฟื่องฟูมาก แต่ในปลายยุค 1100 ประเทศได้เข้าสู่ยุค Kamakura เนื่องจากเจ้าเมืองที่มีอำนาจได้มีครอบครองอำนาจเหนือดินแดนทั้งหมด และเมืองหลวงก็ได้ย้ายไปที่ Kamakura ดังนั้นจึงเป็นระยะเวลามากกว่าสองศตวรรษที่เป็นช่วงระยะเวลาแห่งสงครามกลางเมืองในศตวรรษที่ 14 เมืองโอซาก้าถูกทำลายอย่างมากจากสงคราม ต่อมาในปี ค.ศ.1496 Rennyo นักบวชที่มีตำแหน่งสูงสุดในขณะนั้นได้เริ่มทำการก่อสร้าง Ishiyama Gobo วัดนี้ต่อมาถูกเรียกว่า วัด Ishiyama Honganji และวัดนี้ยังเป็นเหมือนป้อมปราการที่แข็งแกร่งเพื่อป้องกันการบุกรุกจากข้าศึกในระหว่างช่วงปลายยุค Muromachi(1336-1573) Nobunaga Oda เจ้าเมืองผู้ทรงอิทธิพลได้ติดต่อกับ Uemachi Daichiเ พราะมันยากมากที่จะทำการสู้รบและควบคุมดินแดนที่ล้อมรอบอยู่ มีความเชื่อกันว่าการควบคุมดินแดนนี้ ซึ่งถูกสร้างโดยน้ำจากแม่น้ำ Yamatogawa และ Yodogawaและมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน จะถือว่าเป็นการควบคุมส่วนอื่นๆของประเทศญี่ปุ่นและในโลกด้วย ความขัดแย้งอันยาวนานที่ตามมาอีกหนึ่งทศวรรษ และวัดจำนวนมากถูกทำลายไป หลังจากวัดได้ถูกย้ายไปอยู่ภายใต้การควบคุมของ Nobunaga Oda.ผู้สืบทอดของเขาซึ่งได้แก่ Hideyoshi Toyotomi เป็นเจ้าเมืองอีกคนหนึ่งที่มีชื่อเสียง ได้รวบรวมประเทศญี่ปุ่นจากฐานที่ตั้งของเขาในโอซากา และสร้างปราสาทโอซากาในปี 1583 ซึ่งอยู่ในระหว่างยุค Azuchi Momoyama(1574-1600) แม่น้ำถูกขุดเพื่อขยายความสามารถของโอซาก้าออกไปในการเป็นฐานที่ตั้งสำหรับการขนส่งทางทะเล อย่างไรก็ตาม ในการสู้รบที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงฤดูหนาวของปี 1614 และในฤดูร้อนของปี 1615 ทำให้เมืองประสาทของโอซากาถูกเผาจนหมดสิ้น
ศูนย์กลางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมเมื่อญี่ปุ่นได้เข้าสู้ยุค Edo (1601-1867) เมื่อเมืองหลวงถูกย้ายจากทางเหนือไปสู่เมือง Edo (ปัจจุบันคือ โตเกียว) และประเทศญี่ปุ่นได้แยกตัวออกมาจากประเทศอื่นๆในโลกอย่างสมบูรณ์ โอซากาถูกฟื้นฟูขึ้นมาใหม่จากเถ้าถ่านของสงครามกลางเมืองและเติบโตอย่างรวดเร็วเข้าสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และกลายมาเป็นที่รู้จักว่า 'ครัวแห่งญี่ปุ่น' เพราะสินค้าจำเป็นหลายอย่างซึ่งรวมถึงข้าว อาหารสำคัญของตะวันออก จะถูกส่งไปยังโอซากา โดยสินค้าเหล่านี้มาจากทั่วประเทศญี่ปุ่นเพื่อส่งต่อไปขายยังส่วนอื่นๆของประเทศ และส่งไปยังประเทศอื่นๆอีกด้วย
ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจนี้ช่วงให้โอซากาสร้างวัฒนธรรมและรูปแบบของตัวเอง งานศิลปะที่มีชื่อเสียงเกิดขึ้นพร้อมกับการแสดงศิลปะแบบดั้งเดิม เช่นโรงละครหุ่นกระบอก Joruri (ปัจจุบันนี้กลายมาเป็นการแสดงกหุ่นกระบอก Bunraku) , โรงละคร Noh และโรงละคร Kabuki โอซากายังเป็นช่วยทำให้เกิดการพัฒนาของการศึกษาในประเทศญี่ปุ่น มีโรงเรียนก่อตั้งขึ้นในโอซากาที่ได้ผลิตนักศึกษาจำนวนมากที่มีอิทธิพลอย่างมากในยุคนั้น มีโรงเรียนหนึ่งได้แก่โรงเรียน Tekijyuku, ก่อตั้งขึ้นเพื่อศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และการแพทย์ทางตะวันตก นักเรียนโรงเรียนนี้รวมถึงบุคคลสำคัญที่มีบทบาทในการปฏิรูปรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงยุคลกลางศตวรรษที่ 19 และประเทศญี่ปุ่นได้เริ่มออกจากการโดดเดี่ยวตัวเองและเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ในเวลาต่อมา
สถานที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์
ปราสาทโอซากาปราสาทโอซากา ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมืองที่มีชื่อเสียง ทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่เป็นที่นิยม และเป็นสัญลักษณ์ของโอซากา ปราสาทนี้ประกอบขึ้นด้วยโครงสร้าง 13 อย่างที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุให้เป็นทรัพย์สมบัติสำคัญในทางวัฒนธรรม สิ่งที่มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษคือ ประตูขนาดใหญ่และและป้อมปราการที่อยู่ตามคูกำแพงเมืองรอบนอก กำแพงสูงชันที่สูงเกือบถึง 30 เมตร นั้นทำมาจากก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งส่งเข้ามาในโอซากาจากเหมืองที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 100 กิโลเมตร ความสูงของกำแพงและความกว้างของคูกำแพงเมืองที่เห็นนั้นไม่สามารถเทียบได้กับปราสาทอื่นๆได้ญี่ปุ่นได้เลยสิ่งที่น่าสนใจยังรวมถึง หลังคารูปปลาโลมาแปดตัวของหอ และหลังคาอยู่ประดับไปด้วยกระเบื้องและแกะสลักเป็นรูปทรงของเสือ ซึ่งทั้งหมดจะถูกชุบด้วยทองหอสูงของปราสาทได้รับการซ่อมแซมใหม่ในปี 1997 การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมองโอซากาที่อยู่ : 1-1 OsakaJo,Chuo-ku,OsakaCity เปิด 9:00-17:00(รอบสุดท้ายเวลา 16:30) ขยายเวลาให้เข้าชมช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน
วัด Shitennojiวัดที่ถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นคือ วัด Shitennoji วัดนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าชาย Shotoku (คริสต์ศักราช 574-622 )เขาเป็นวีรบุรุษยิ่งใหญ่ของประวัติศาตร์ญีปุ่นในยุคแรกที่สามารถมีรบชนะศัตรูฝ่ายตรงข้ามด้วยวัยเพียง 16 ปี และได้รับเอาพุทธศาสนาเข้ามาในประเทศด้วย การรบระหว่างเผ่า Soga และเผ่า Monobe นั้น เผ่าSoga ซึ่งนำโดยเจ้าชาย Shotoku ต้องการให้ญี่ปุ่นรับเอาศาสนาพุทธเข้ามาใช้ แต่ Monobe นั้นคัดค้าน เพราะเขาสนับสนุนศาสนาโบราณของญี่ปุ่น มีการกล่าวกันว่าเจ้าชายได้รับชัยชนะโดยสวดภาวนาต่อราชาแห่งสรวงสวรรค์ทั้งสี่ ซึ่งเป็นทหารของพระพุทธเจ้า มีการบันทึกไว้ว่าชัยชนะที่เกิดขึ้นในคริสต์ศักราช 593 เจ้าชายได้มีคำสั่งให้มีการก่อสร้างวัด Shitennoji นี้ขึ้นวัดนี้ถูกสร้างขึ้นไม่ห่างจากอ่าวโอซากาซึ่ง อ่าวนี้มีความสำคัญอย่างมากในด้านการค้าและการสัญจร มันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถแสดงให้โลกเห็นถึงความมีอำนาจและความเจริญรุ่งเรืองของญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะมีการสร้างวัดขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่โครงสร้างของวัดยังคงไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากครั้งเริ่มแรกวัด Shitennoji เป็นสถานที่สักการะบูชาที่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นและเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนในโอซากา การบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัดเป็นงานประจำปีหลายๆงานที่เกิดขึ้นที่นี่ ซึ่งรวมถึง Doya-Doya, Shoryoe, และ Shitennoji Wassoที่อยู่ 1-11-18 Shitennoji,Tennoji-ku,OsakaCity เปิด วัดและที่แสดงของสะสม เดือนเมษายน-กันยายน เปิดเวลา 8.30-16.30 (รอบสุดท้ายเวลา 16.00) และเดือน ตุลาคม-มีนาคม เปิดเวลา 8.30-16.00 (รอบสุดท้ายคือเวลา 15.30)
ปราสาทโอซากาปราสาทโอซากา ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมืองที่มีชื่อเสียง ทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่เป็นที่นิยม และเป็นสัญลักษณ์ของโอซากา ปราสาทนี้ประกอบขึ้นด้วยโครงสร้าง 13 อย่างที่รัฐบาลญี่ปุ่นระบุให้เป็นทรัพย์สมบัติสำคัญในทางวัฒนธรรม สิ่งที่มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษคือ ประตูขนาดใหญ่และและป้อมปราการที่อยู่ตามคูกำแพงเมืองรอบนอก กำแพงสูงชันที่สูงเกือบถึง 30 เมตร นั้นทำมาจากก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งส่งเข้ามาในโอซากาจากเหมืองที่อยู่ห่างออกไปมากกว่า 100 กิโลเมตร ความสูงของกำแพงและความกว้างของคูกำแพงเมืองที่เห็นนั้นไม่สามารถเทียบได้กับปราสาทอื่นๆได้ญี่ปุ่นได้เลยสิ่งที่น่าสนใจยังรวมถึง หลังคารูปปลาโลมาแปดตัวของหอ และหลังคาอยู่ประดับไปด้วยกระเบื้องและแกะสลักเป็นรูปทรงของเสือ ซึ่งทั้งหมดจะถูกชุบด้วยทองหอสูงของปราสาทได้รับการซ่อมแซมใหม่ในปี 1997 การซ่อมแซมในครั้งนี้ได้นำโครงสร้างอันงดงามของกำแพงความบริสุทธิ์และความสุกใสของทองคำกลับมาให้เราเห็นอีกครั้ง ความงดงามของปราสาทจึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของเมองโอซากาที่อยู่ : 1-1 OsakaJo,Chuo-ku,OsakaCity เปิด 9:00-17:00(รอบสุดท้ายเวลา 16:30) ขยายเวลาให้เข้าชมช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน
วัด Shitennojiวัดที่ถือว่าเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นคือ วัด Shitennoji วัดนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าชาย Shotoku (คริสต์ศักราช 574-622 )เขาเป็นวีรบุรุษยิ่งใหญ่ของประวัติศาตร์ญีปุ่นในยุคแรกที่สามารถมีรบชนะศัตรูฝ่ายตรงข้ามด้วยวัยเพียง 16 ปี และได้รับเอาพุทธศาสนาเข้ามาในประเทศด้วย การรบระหว่างเผ่า Soga และเผ่า Monobe นั้น เผ่าSoga ซึ่งนำโดยเจ้าชาย Shotoku ต้องการให้ญี่ปุ่นรับเอาศาสนาพุทธเข้ามาใช้ แต่ Monobe นั้นคัดค้าน เพราะเขาสนับสนุนศาสนาโบราณของญี่ปุ่น มีการกล่าวกันว่าเจ้าชายได้รับชัยชนะโดยสวดภาวนาต่อราชาแห่งสรวงสวรรค์ทั้งสี่ ซึ่งเป็นทหารของพระพุทธเจ้า มีการบันทึกไว้ว่าชัยชนะที่เกิดขึ้นในคริสต์ศักราช 593 เจ้าชายได้มีคำสั่งให้มีการก่อสร้างวัด Shitennoji นี้ขึ้นวัดนี้ถูกสร้างขึ้นไม่ห่างจากอ่าวโอซากาซึ่ง อ่าวนี้มีความสำคัญอย่างมากในด้านการค้าและการสัญจร มันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สามารถแสดงให้โลกเห็นถึงความมีอำนาจและความเจริญรุ่งเรืองของญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าจะมีการสร้างวัดขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่โครงสร้างของวัดยังคงไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากครั้งเริ่มแรกวัด Shitennoji เป็นสถานที่สักการะบูชาที่เป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นและเป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนในโอซากา การบอกเล่าถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัดเป็นงานประจำปีหลายๆงานที่เกิดขึ้นที่นี่ ซึ่งรวมถึง Doya-Doya, Shoryoe, และ Shitennoji Wassoที่อยู่ 1-11-18 Shitennoji,Tennoji-ku,OsakaCity เปิด วัดและที่แสดงของสะสม เดือนเมษายน-กันยายน เปิดเวลา 8.30-16.30 (รอบสุดท้ายเวลา 16.00) และเดือน ตุลาคม-มีนาคม เปิดเวลา 8.30-16.00 (รอบสุดท้ายคือเวลา 15.30)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งเมืองโอซากา "Kaiyukan"
ภายในหมู่บ้านแห่งอ่าว Tempozen ตรงใจกลางบริเวณอ่าวที่คุณจะได้พบ นั้นเป็นที่พักอาศัยที่สร้างขึ้นจากโครงสร้างของการออกแบบที่แปลกตา พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งเมืองโอซากา "Kaiyukan" เป็นหนึ่งในพิพธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งประกอบด้วยถังน้ำจำนวน 15 ถังอยู่ในกลางถังน้ำที่บรรจุน้ำได้ 5,400 ตัน มันเป็นบ้านของสัตว์ทะเล 580 ชนิด กว่า 30,000ตัวที่มาจากรอบมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีทั้งแมงกระพรุนรูปร่างแปลกประหลาด ตัวนากทะเล ปลาโลมา นกเพนกวิน และมีแม่กระทั่ง ฉลามวาฬยักษ์ ที่ถือว่าเป็นปลาที่ใหญ่ที่ในโลกด้วย ที่นี่ไม่เหมือนกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อื่น มันสามารถดึงดูดใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ที่อยู่ 1-1-10 Kaigandori,Minato-ku,OsakaCity เปิด 10.00-20.00 (รอบสุดท้ายคือเวลา 19.00 ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาลด้วย)พิพิธภัณฑ์ทางทะเลแห่งเมืองโอซากา
พิพิธภัณฑ์ทางทะเลแห่งเมืองโอซากา ตั้งอยู่ถัดจากจัตุรัสแห่งจักรวาลของ Nanko พิพิธภัณฑ์ถูกสร้างขึ้นด้วยหลังคาโดมกระจกซึ่งเป็นโครงสร้างที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนมากในบริเวณอ่าว พิพิธภัณฑ์ นี้มีสี่ชั้น มีการสร้างขึ้นใหม่เมื่อศตวรรษที่ 17 โดยพ่อค้าทางเรือ ที่เรียกกว่า Higakikaisen พิพิธภัณฑ์นี้แสดงให้เห็นถึงของสะสมเกี่ยวกับเอกสารประวัติศาตร์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของเมืองโอซากา ซึ่งเป็นผลจากกิจกรรมทางทะเลอันไกลโพ้น พิพิธภัณฑ์ยังมีโรงภาพยนต์ที่มีเทคโนโลยี่อันล้ำสมัย และเรือยอชต์จำลอง ซึ่งเป็นครั้งแรกในโลกที่ผู้เยี่ยมชมสามารถลองล่องเรือแบบเสมือนจริงนี้ที่อยู่ 2-5-20 Nankokita,Suminoe-ku,OsakaCity เปิด 10.00-17.00 (ขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล) ปิด วันจันทร์ (ปิดวันอังคารถ้าหากวันจันทร์เป็นวันหยุด) และปิดในช่วงสิ้นปี
โรงถ่ายภาพยนตร์ยูนิเวอร์แซล
ญี่ปุ่นเป็นสถานที่ซึ่งภาพยนตร์และโทรทัศน์ได้กลายมามีชีวิต เป็นเจ้าบ้านของความสนุกสนามร่าเริง การแสดง และแรงดึงดูดใจ นำมาซึ่งความตื่นเต้น เร้าใจอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน การแสดงกับเสียงหัวเราะที่ไม่สิ้นสุด หนังที่สร้างขึ้นและเบื้องหลังการถ่ายทำเมื่อมาพบกับขนาดและความพลังอันยิ่งใหญ่ มันจึงนำคุณไปอยู่เหนือฉาก และท่วมท้นไปด้วยการแสดง action ต่างๆ ทุกๆการแสดง หนังที่สร้างขึ้นและทุกๆร้านค้าและภัตตาคาร ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและสนุกสนาน และเป็นพลังแห่งประสบการณ์จากฮอลลีวูดของแท้ที่อยู่ 2-1-33 Sakurajima,Konohana-Ku,OsakaCity
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น